เทคนิคและวิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลการวิจัยเชิงคุณภาพ

IMG_2394.JPG

การวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research)เป็นการวิจัยที่ต้องการค้นหาความจริงทั้งจาก “เหตุการณ์สภาพแวดล้อมตามความเป็นจริง” ซึ่งมี การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างเหตุการณ์กับสภาพแวดล้อม เป็นหัวใจหลักของการวิจัย เพื่อให้เกิดความเข้าใจอย่างถ่องแท้ (Insight) จากภาพรวมที่มาจากหลากหลายมิติหรือมุมมองนั่นจึงทำให้การวิจัยเชิงคุณภาพเป็นการวิจัยเชิงธรรมชาติ (Naturalistic Research) ซึ่งหมายความถึง การที่จะปล่อยให้ทุกๆอย่างคงอยู่ตามสภาพตามธรรมชาติปราศจากการกระทำ (Manipulate) ใดๆที่จะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะทำให้ผลลัพธ์ที่ได้คลาดเคลื่อนไปได้ ซึ่งวันนี้เรามีวิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลและข้อควรระวังมาฝากกันค่ะ

  1. การสัมภาษณ์
5-w's-who-what-when-where-why-how.jpg

การสัมภาษณ์เชิงลึก (In-Depth Interview) เป็นการสนทนาโดยมีจุดมุ่งหมายอยู่แล้ว แต่ต้องค่อยๆ ตะล่อมถามไปเรื่อยๆ ให้นึกถึงคำถาม  6 Question Words (ใคร / ทำอะไร / ที่ไหน / เมื่อไหร่ / ทำไม / อย่างไร) ให้ถามความคิดเห็น เหตุผล และมุมมอง ไม่ใช่ถามแบบบังคับให้ตอบว่า “ใช่-ไม่ใช่” “ถูกต้อง-ไม่ถูกต้อง” ต้องเป็นมุมมองของผู้ให้ข้อมูล ไม่ใช่มุมมองของผู้วิจัย ไม่จำเป็นต้องเน้นให้ตอบเป็นตัวเลขเชิงปริมาณ อย่าใช้คำถามชี้นำเพื่อให้ตอบในแนวที่วางไว้ อย่าใช้คำถามที่ทำให้ผู้ตอบไม่อยากตอบ รู้สึกอับอายหรือไม่สบายใจ และไม่ควรใช้คำถามที่เป็นความรู้ทางวิชาการเกินไป (ต้องรู้ background การศึกษาของผู้ตอบด้วย) และนอกจากนั้น ถ้ามีโอกาสสัมภาษณ์หลายๆ รอบ วิเคราะห์หลายๆ รอบ จะทำให้ได้รายละเอียดมากขึ้น เวลาเขียนบรรยายจะทำให้ได้อรรถรสมากขึ้น

  • Unstructured interview เริ่มต้นจากคำถามทั่วๆ ไป
  • Semi-structured interview สร้างข้อคำถามไว้ล่วงหน้าเป็นข้อๆ และค่อยๆ ตะล่อมถาม อย่างไรก็ตาม การถามแต่ละครั้งของแต่ละคน จะแตกต่างกันไปตามบริบทของคำตอบของผู้ให้ข้อมูล

ลักษณะของคำถามที่ใช้ในการสัมภาษณ์

  1. Experience/behavior questions ถามประสบการณ์หรือเหตุการณ์ (ช่วยเล่าเหตุการณ์ให้ฟังหน่อยได้มั้ยคะ ? ….)
  2. Opinion/value questions ถามความคิดเห็น (คิดอย่างไรกับ ..)
  3. Feeling questions ถามความรู้สึก (รู้สึกอย่างไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น …)
  4. Sensory questions ถามถึงสัมผัสทั้ง 5 (การเห็น การสัมผัส การรับรส การดมกลิ่น การได้ยิน) เห็นอะไร รสชาติเป็นอย่างไร รู้สึกอย่างไร ได้ยินว่าอย่างไร
  5. Knowledge questions ถามเกี่ยวกับสิ่งที่เขารู้ (ในเรื่องที่เป็นจริง ไม่ใช่ความรู้สึก)
  6. Background/demographic questions ถามภูมิหลังของผู้ให้ข้อมูล เช่น ทำงานมากี่ปีแล้วคะ ?

Tips ข้อควรระวังของการสัมภาษณ์

การสัมภาษณ์มีข้อดีคือ ได้ข้อมูลมาก ใช้เวลาน้อย แต่ข้อจำกัดคือ ข้อมูลที่ได้อาจไม่ใช่ข้อมูลจริง ผู้สัมภาษณ์ต้องมีทักษะในการเจาะลึกเพื่อให้ได้ข้อมูล ต้องใช้เวลาในการผูกมิตรกับผู้ให้ข้อมูล

  1. การสังเกต (Observation)
getty_859832992_362425.jpg
  • การสังเกตแบบมีส่วนร่วม  (Participation) ต้องเอาใจใส่ต่อทุกอย่างที่เกิดขึ้น ใช้ประสบการณ์ทั้งในฐานะคนในและคนนอกในเวลาเดียวกัน
  • การสังเกตแบบไม่มีส่วนร่วม นักวิจัยทำตัวเป็นคนนอก คอยจดบันทึกเหตุการณ์และสิ่งต่างๆ ที่สังเกตเห็น ขณะอยู่ใน setting ที่เลือกศึกษา

การบันทึกภาคสนาม (field note) บันทึกอะไร ?

บันทึกฉากและบุคคล (setting) การกระทำ (acts) แบบแผนกิจกรรม (pattern of activities) ความสัมพันธ์ (relationship) ความหมาย (meaning) เพื่อให้ได้คำตอบว่า ทำไมจึงเกิดพฤติกรรมและการกระทำนั้นๆ

  1. การอภิปรายกลุ่ม (Focus group discussion)
depositphotos_183298268-stock-video-young-casual-business-team-meeting.jpg

หลักสำคัญคือ ผู้ร่วมสนทนาทุกคน (ซึ่งควรมีประมาณ 6-12 คน) ควรมีภูมิหลังคล้ายกัน จะต้องไม่มีความขัดแย้งกันเป็นส่วนตัว และไม่มีใครมีอำนาจเหนือคนอื่นในกลุ่ม เป็นการเก็บข้อมูลในกลุ่มที่มีปัญหาเดียวกัน มีประสบการณ์เดียวกัน มาแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นกัน ประเด็นสนทนาต้องไม่ลึกซึ้ง หรือเป็นเรื่องส่วนตัว หรือ sensitive เกินไป

4) การเก็บรวบรวมข้อมูลจากเอกสารอื่นๆ

  • เอกสารส่วนบุคคล เช่น intimate diaries, personal letters (จดหมายส่วนตัว), autobiographies (ชีวิตและผลงาน หนังสือมุทิตาจิต)
  • เอกสารทางการ เช่น internal documents (บันทึกข้อความ รายงานการประชุม), external communications (สิ่งพิมพ์เผยแพร่ประชาสัมพันธ์หน่วยงาน), personal records/files (แฟ้มประวัติบุคคล เวชระเบียน)
  • ภาพถ่าย อาจเป็นภาพถ่ายที่ถูกค้นพบ หรือภาพถ่ายที่ผู้วิจัยได้ถ่ายขึ้นเพื่อเก็บเป็นหลักฐาน
  • สถิติหรือข้อมูลที่เป็นตัวเลขเชิงปริมาณ (ใช้อ้างอิง เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับข้อมูลเชิงคุณภาพ)
  • สัญลักษณ์หรือสิ่งของที่มีความหมาย เช่น พระพุทธรูป ไม้กางเขน
  • ฟิล์มภาพยนตร์ วิดีทัศน์  และข้อมูลจาก social media

Tips ข้อควรระวังของการเก็บรวบรวมข้อมูลจากเอกสาร

ข้อมูลเอกสารส่วนตัว อาจไม่ใช่ตัวแทนของประชากร  ข้อมูลส่วนมากใส่ความคิดเห็นของผู้เขียนเป็นหลัก ทำให้ bias ได้ เอกสารบางอย่างผู้เขียนไม่ได้ศึกษาถ่องแท้ หรือเขียนบิดเบือนเพื่อลบล้างความผิดของตนในอดีต

 ที่มา : วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลการวิจัยเชิงคุณภาพ

You might also enjoy

6 ประโยชน์ที่ได้จากการว่าจ้างทำวิจัย

“หากจ้างทำงานวิจัย แล้วผู้วิจัยจะได้ประโยชน์อะไรจากงานวิจัย?” เป็นข้อคำถามที่ผู้วิจัย หรือผู้เรียนหลายๆ ท่าน กำลังลังเลว่า ถ้าหากตัดสินใจว่าจ้างบริษัททำงานวิจัย งานวิทยานิพนธ์ หรืองานดุษฎีนิพนธ์ นั้น

3 สิ่งที่ต้องรู้เพื่อทำวิทยานิพนธ์ให้สำเร็จ

การทํางานวิทยานิพนธ์แต่ละครั้ง สิ่งจําเป็นที่ผู้วิทยานิพนธ์ส่วนใหญ่ต้องคำนึงเป็นสิ่งสำคัญ มี 3 ปัจจัย คือ  1. ควรเลือกหัวข้อเรื่องงานวิทยานิพนธ์ที่ตนเองถนัด หัวข้อเรื่องงานวิทยานิพนธ์ เป็นสิ่งที่ต้องเริ่มพิจารณาเป็นอันดับแรก

10  คำถามเช็กตัวเองก่อนตัดสินใจเรียนต่อเมืองนอก

การไปเรียนต่อเมืองนอกนั้นก็เป็นความฝันของใครหลายๆ คน แต่จะมั่นใจใน ‘ความพร้อม’ ของตัวเองได้ยังไง เพราะการไปเรียนต่อก็เหมือนการไปใช้ชีวิตอยู่ในสถานที่ใหม่ๆ สักที และไม่ได้ไปแบบระยะสั้น ดังนั้นการโยกย้ายครั้งนี้จึงสร้างความเปลี่ยนแปลงสภาพชีวิตทั้งภายในและภายนอก วันนี้

Tag : การทำ is จ้างทำ is จ้างทำวิจัย จ้างทำวิทยานิพนธ์ จ้างทํางานวิจัย จ้างทําวิจัย ป.ตรี ราคา จ้างทําวิจัยราคา จ้างทําวิจัยราคาประหยัด จ้างทําวิจัย ราคาเท่าไหร่ จ้างทําวิทยานิพนธ์ จ้างทําวิทยานิพนธ์ราคา จ้างวิจัย ทําวิทยานิพนธ์ ทำงานวิจัย ทำงานวิทยานิพนธ์ บริการรับทำวิจัย รับจัดหน้าวิทยานิพนธ์ รับจ้างทำ is รับจ้างทํางานวิจัย ราคาถูก รับจ้างทํารายงาน รับจ้างทําวิทยานิพนธ์ รับจ้างทําวิทยานิพนธ์ ราคาถูก รับจ้างเขียนรายงาน รับทำ is รับทำ powerpoint รับทำ spss รับทำ thesis รับทำดุษฎีนิพนธ์ รับทำวิจัย รับทำวิจัยราคาถูก รับทำวิทยานิพนธ์ รับทำสารนิพนธ์ รับทำแบบสอบถาม รับทำโปรเจคจบ รับทํา thesis รับทํางานวิจัย รับทําปริญญานิพนธ์ รับทํารายงาน รับทําวิจัย ป.ตรี รับทําวิทยานิพนธ์ รับทําวิทยานิพนธ์ ป.โท รับทําวิทยานิพนธ์ ราคา รับทําวิทยานิพนธ์ราคาเท่าไหร่ รับทํา สารนิพนธ์ รับแปลงานวิจัย ราคารับทำวิทยานิพนธ์ วิจัย